Lifetime Recipe

Lifetime Recipe

ก่อนจะอ่าน...

นี่เป็นบล็อคส่วนตัว สิ่งที่อยากโพสคือสิ่งที่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะตัวเองเป็นคนลืมง่าย แม้แต่ช่วงเวลาความสุข ความประทับใจ ผิดกับความเศร้าเสียใจ ที่จำได้ง่ายเหลือเกิน แต่จะพยายามโพสแต่สิ่งที่น่าจดจำที่สุดก็แล้วกัน ...ยินดีต้อนรับสู่โลกของJulie Mค่ะ^^

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[Movie/หนัง] [แนะนำ] Flipped วัยใสๆ ตกกระได หัวใจให้เธอ


คำเตือน: โพสต์นี้สปอยล์หนัก ไปดูหนังมาก่อนนะจ๊ะ

เด็กชายไบร์ซ และเด็กหญิงจูลี่


Poppy love หรือความรักครั้งแรกในช่วงวัยใสๆ (ไม่ใช่ ไสยๆ นะ) จะต้องนึกถึงหนังไทยเรื่องนึงที่ทุกคน (ยกเว้นเราแน่ๆ ) ที่ผ่านตาและฝังใจมาแล้วก็คือ แฟนฉัน เราเคยดูเมื่อนานมาแล้ว แต่ดูไม่เคยจบเลยให้คนอื่นเล่าแทนก็คิดว่าน่าจะสนุกแต่คงมีแต่เราที่ไม่ได้ชอบแนวReminiscenceเพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ พอเราโตขึ้นมาหน่อยนึงก็เข้าใจความทรงจำเหล่านั้น ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้มีความหลังแบบนั้นแถมตอนจบอาจไม่สมหวังก็ตาม แต่มาวันนี้เราเจอหนังเรื่องนึงของทางฝั่งฮอลลีวูด มีคนแชร์เพลงนึงขึ้นมาคือ Pretty Little Angel Eyes ของ Curtis Lee ตอนนั้นติดหูตามหาใน Youtube ก็เจอเด็กชายกับเด็กหญิงหน้าตาน่ารักๆ แสดง เสิร์ชจนรู้ชื่อเรื่อง Flipped นั่นเอง 




               ใบปิดฉบับหนัง             


 หน้าปกหนังสือ


                                                                   The Princess Bride (1987)



Flipped ถูกสร้างในปี2010 โดยผู้กำกับคนเดียวกับ The Princess Bride ปี 1987 (แนวโรแมนติดแฟนตาซีผจญภัยพร้อมกับQuote ที่คุ้นหู "As you wish".) เป็นหนังที่ถูกดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกัน แต่ดัดแปลงไปอยู่ในยุค 60's ต่างจากหนังสือที่เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในช่วง 90's สำหรับเราเรามองว่ายิ่งแนวคลาสสิกใสๆ ยิ่งอยู่ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากเท่าไร ก็ยิ่งคลาสสิกมากเท่านั้น แถมเพลงในช่วง 60'sส่วนใหญ่เป็นเพลงจีบสาวมากกว่ายุค 90's ยังไม่เคยอ่านเป็นหนังสือ กำลังคิดจะอ่านอยู่ หลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าที่อ่านมาเนี่ยมันเป็นแนวมิวสิเคิลรึป่าว ตอบเลยว่า ไม่ใช่ มันคือหนังโรแมนติดคอมเมดี้วัยใสๆ ที่มีเพลงประกอบน่ารักๆ ในยุค60ซึ่งเป็นยุคทองของวงการเพลงเลยล่ะ (ใส่เป็นธีมเพลงของบล็อคแล้ว เชิญฟังได้นะ)


ดูหน้าหนูไบร์ซ 555555+

    โตมาก็ตามตื้อ


เรื่องราวก็อย่างที่บอกไป พอมันเกิดในยุค 60 ความคลาสสิกมันอยู่ที่ตรงที่เน้นการสื่อสารพบปะเป็นหลัก โดยเฉพาะเด็กหญิง (นางเอก) จูลี่ เบเกอร์(แสดงโดย Madeline Carroll) สาวน้อยเพื่อนบ้านตรงข้ามตกหลุมรักเด็กชายบ้านตรงข้ามที่เพิ่งย้ายเข้ามา ไบร์ซ ลอสกี้ (แสดงโดย Callan McAuliffe) (ตอนนั้นน้องหล่อมาก แล้วมาเล่นเป็นเพื่อนพระเอก I Am No. 4 ตัวน้องก็ไม่สูงอีกเลย โถ่ 555+) จูลี่เห็นไบร์ซครั้งแรกก็ตกหลุมรักทำตาใสๆ ใส่ไบร์ซแถมอาสามาช่วยไบร์ซย้ายของให้ทั้งๆ ที่เพิ่งเห็นหน้ากัน (น้องไวมาก) แต่มันจะไม่ธรรมดาก็ตรงนี้น้องเพิ่ง 8 ขวบ! ก็อ่อย(เด็ก)ผู้ชายแล้ว! 555+ ฉากนี้คิดว่าใครๆ ก็ชอบเพราะมันน่ารักน่าหมั่นไส้ยิกๆ ส่วนไบร์ซน่ะเหรอ ก็ไม่ชอบจูลี่ตั้งแต่แรกที่เห็นไง 555+ (ตามสีหน้าในรูปบน)



จูลี่น้ำใสใจจริง

แอบชอบจูลี่ก็บอกเถิด


เรื่องราวก็เริ่มขึ้นตอนนั้นจนเด็กๆ โตขึ้น จูลี่ไม่เคยเลิกชอบไบร์ซและไบร์ซก็ไม่เคยชอบจูลี่เลยยย (ย.ยักเยอะๆ) แต่พอจูลี่ทำอะไรดีๆ ให้ เช่น ชวนปีนต้นไม้ดูวิว (วิวสวยจริง) ไบร์ซก็ปฏิเสธทุกอย่างที่จูลี่แม้แต่แกล้งมีแฟนกับคนอื่นต่อหน้าจูลี่ (ตรงนี้คนเขียนฮา เด็กหนอเด็ก ชอบหรือไม่ชอบก็บอกตรงๆ มาทำให้หึงเหิงอะไร๊) จนกระทั่ง จูลี่รู้ความจริงว่าของที่จูลี่เคยให้ไบร์ซ ไบร์ซเอาไปทิ้งหมด (ไม่สปอยล์นะ ไปดูเองว่า จูลี่ให้อะไรไบร์ซ) จูลี่จึงเลิกแล้วทุกสิ่งอันเกี่ยวกับไบร์ซแถมไบร์ซก็ไม่คิดจะปกป้องจูลี่ลับหลังเรื่องคุณลุงของเธออีกก็ยิ่งทำให้จูลี่คิดได้ เด็กหญิงก็เลิกสนใจเด็กชายในที่สุดจนหนูไบร์ซได้เข้าใจทุกสิ่งอันที่จูลี่พยายามทำทุกอย่างที่เขาไม่เคยสนใจสิ่งเล็กๆ นั้นเลยแม้แต่เรื่องการปกป้องต้นไม้ที่จูลี่ชอบปีน







สิ่งที่น่าสนใจและเป็นส่วนหลักของหนังก็คือเรื่องการเลี้ยงดูของเด็กหญิงเด็กชาย 2 บ้านนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง บ้านของเด็กชายมีฐานะ พ่อมีหน้ามีตาในอาชีพ แม่ก็เป็นแม่บ้านสุดเพอร์เฟค คุณตาก็อยู่อย่างสบายๆ และพี่สาวก๋ากั่นชวนพ่อปวดหัว พอสังเกตใกล้ๆ บ้านที่เพอร์เฟคในสายตาชาวบ้าน จริงๆ แล้วผู้ใหญ่ในบ้านนี้ไม่เคยคุยกับลูกๆ หลานๆ ตัวเองอย่างใกล้ชิดและจริงจังมาก่อนราวกับต่างคนต่างอยู่ พ่อที่คอยชอบดูถูกครอบครัวเด็กหญิงและคุณตาที่ชอบจูลี่มากกว่าหลานตัวเอง ผิดกับบ้านของเด็กหญิงที่ฐานะเป็นแค่คนเช้าบ้าน พ่อเป็นช่างซ่อมชอบวาดงานศิลป์ แม่ก็เป็นแม่บ้านธรรมด๊าธรรมดา พี่ชายฝาแฝดเป็นนักร้องพรสวรรค์ที่ครอบครัวคอยสนับสนุน และคุณอาเป็นออติสติก เราชอบฉากนึงของบ้านนี้คือการอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงทะเลาะกันและสอนว่าให้คือคุณค่าของชีวิตที่แท้จริง

โดยจุดเด่นที่ควรพูดถึงก็คือการเล่าเรื่องบรรยายโดยจูลี่และไบร์ซพาเราเข้าสู่ห้วงความคิดของเด็กๆ ที่มีต่อกันและกันกับคนรอบๆ ตัวพวกเขา นั้นยิ่งทำให้หนังพาเราซึมซับและเข้าใจตัสละครราวกับพวกเขากำลังระบายความรู้สึกในใจให้เราฟัง











ตรงนี้นี่เองที่หนังพยายามแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนมีปมปัญหาของผู้ใหญ่ที่ทำให้เด็กมีคาแรกเตอร์แบบนั้น ด้วยความคิดและค่านิยมคนยุคสมัยนั้นตีกรอบว่าเรียนจบ ทำงาน หาเงิน สร้างครอบครัว ทำงานตำแหน่งที่มีหน้ามีตา สิ่งนี้เองที่ทำให้คนเหล่านั้นไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองฝันในวัยว้าวุ่นและคนเหล่านี้เองจะคอยดูถูกคนที่ทำตามฝันตัวเองว่ามันไร้ค่า จึงเกิดการปิดกั้นทางความคิด นี่คือสิ่งที่พ่อของไบร์ซทำให้ไบร์ซเป็นคนไม่กล้าทำ ไม่กล้ารับและไม่รู้ใจตัวเอง




^______^



จนในที่สุดคุณตาของไบร์ซที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับหลานตัวเองจึงยกตัวอย่างชีวิตของเขากับคุณยายที่เสียไปแล้วให้ไบร์ซฟังและคอยอธิบายว่าทำไมคุณตาถึงชอบจูลี่มาก เพราะจูลี่คือเงาสะท้อนของคุณยายไบร์ซนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ถึงไบร์ซยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะแสดงออกความรู้สึกในใจต่อจูลี่ พอถึงตอนนี้เราประทับใจไบร์ซมากๆ ที่ทำลายกรอบความคิดตัวเองออกมาได้จนได้จูลี่กลับคืนมาตอนนั้นเลยคิดว่า ความรักก็ทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเด็กชายจะเข้าใจช้ากว่าเด็กหญิงก็ตาม 5555+ กลายเป็นรักแรกพบของเด็กหญิงจูลี่ เบเกอร์และรักสุดท้ายของเด็กไบร์ซ ลอสกี้


คำคมที่คนเขียนประทับใจที่สุดของเรื่องนี้ 



"บางทีความเงียบอาจเชื่อมสัมพันธ์เราได้มากกว่าในแบบที่คำพูดไม่สามารถทำได้"
ฉากที่จูลี่กับพ่อไปเยี่ยมลุงโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลยแต่กลับรู้สึกอบอุ่นใจเพราะเด็กหญิงกำลังจะไปเจอสมาชิกครอบครัวที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน




"เครื่องจักรนิรันดร์  ใจผมกำลังจะสลายอยู่แล้วแต่พวกเขากำลังคุยเรื่องเครื่องจักรนิรันดร์เนี่ยนะ"
เป็นฉากน่ารักๆ อีกฉากนึงทำให้รู้ว่าเด็กชายไบร์ซรู้ใจตัวเองช้าเกินไปนิดนึงและยังโดนจูลี่เมินใส่ ไอน้องเอ้ยกำลังใจหล่นฮวบเลยสิงานนี้



ไม่มีคะแนนให้ แต่ขอเทใจให้หนังเรื่องนี้องค์ประกอบดีทุกอย่างลงตัว เอาไว้ดูสบายๆ สไตล์ฟีลกู้ด ส่วนตัวดูจนไม่นับครั้ง ชอบทั้งโทนสีหนังความคลาสสิกผสมกับเพลงเพราะที่ทำให้เราหลงเข้าไปในยุค 60ได้และแคสติ้งดีมากๆ คำคมก็กินใจยังมีอีกเยอะ


J.M.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ล่วงหน้านะคะ
Thanks for the comments in advance!

Melody of My Life

ผู้ติดตาม