Lifetime Recipe

Lifetime Recipe

ก่อนจะอ่าน...

นี่เป็นบล็อคส่วนตัว สิ่งที่อยากโพสคือสิ่งที่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะตัวเองเป็นคนลืมง่าย แม้แต่ช่วงเวลาความสุข ความประทับใจ ผิดกับความเศร้าเสียใจ ที่จำได้ง่ายเหลือเกิน แต่จะพยายามโพสแต่สิ่งที่น่าจดจำที่สุดก็แล้วกัน ...ยินดีต้อนรับสู่โลกของJulie Mค่ะ^^

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องสั้น Because You Live - J.M.


Because You Live – J.M. (DeuxJ)

มันเป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง สมัยก่อนเธอพูดกับตัวเองว่า แม้ชีวิตทุกๆ วันนี้แย่ จะลำบาก หรือมีเรื่องที่ทำให้เธออารมณ์ไม่ดี เธอแค่ภาวนาขอให้ตัวเองฝันดีทุกคืน ฝันถึงคนที่ใช่สำหรับเธอ คนที่ทำให้เธอรักและพร้อมจะอยู่ชีวิตไปกับเขา และเธอก็ได้ฝันถึงคนนั้นของเธอแบบนี้ทุกวัน เธอรู้สึกดีใจทุกครั้งก่อนนอน เสมือนเธอมีคนรักในความฝันทุกๆ คืน ได้อยู่ด้วยกัน พูดคุยเรื่องราวให้แก่กัน เธอมีความสุขมากเมื่อฝันถึงเขา ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ฝันถึงวันถัดมาจากนั้นเธออาจะทุกข์ขึ้นมาก็ได้ เพราะฉะนั้นเธอทำได้แต่นึกถึงคนในฝัน คิดถึงคนในฝันให้ตลอด จนกระทั่งเขามีตัวตนในชีวิตจริงๆ ของเธอ  นี่คงจะเป็นความสุขเล็กๆ ที่เธอไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว กลายเป็นว่าชีวิตจริงเธอไม่คิดที่คบใคร เพราะเธอมีสิ่งที่ต้องการแล้วแม้จะไม่ใช่สิ่งที่มีตัวตน

ผ่านไปหลายปีเธอยังคงมีความสุข แต่ก็พบกับความเป็นจริงที่ว่าเธออยากอยู่กับเขามากกว่าที่จะตื่นมาพบความจริง เธอจึงหาวิธีทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องตื่น เธอจึงทำงานอย่างหนักเพื่อรวบรวมเงินที่ได้จากงานของเธอก้อนหนึ่ง สร้างบ้านส่วนตัวที่ไกลๆจากเมืองใหญ่ เธอจ้างคนมาดูแลบ้าน และปรึกษาคุณหมอที่ไว้ใจพร้อมดูแลเธอ ในระหว่างที่เธอนอนหลับไปตลอดกาล  เธอได้จ้างสถาปนิกหนุ่มคนหนึ่ง เธอปรึกษาเรื่องแบบสร้างบ้านในหลายๆ แบบที่เธออยากให้เหมือนในฝันที่ฝันไว้กับเขาคนนั้น และทุกๆ วันที่เธอกลับจากที่ทำงาน เธอก็ไปหาหนุ่มสถาปนิกเพื่อติดตามงานทุกฝีก้าว เพื่อให้บ้านของเธอออกมาอย่างไม่มีที่ติ ระหว่างพักการทำงาน สถาปนิกหนุ่มเป็นประเภทชอบคุยเฮฮา จึงชวนเธอคุยเรื่องราวต่างๆ เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง หญิงสาวก็เล่าเช่นกัน บางครั้งชายหนุ่มคนนั้น ก็สงสัยว่าทำไมเธอถึงยอมทุ่มเทติดตามงานออกแบบมากขนาดนี้ เขารู้มาว่าเธอไม่มีใครเลย เธอยู่ตัวคนเดียว แต่เธอบอกว่าเธอมีคนรักแล้ว แต่ไม่สามารถมาได้ หนุ่มสถาปนิกก็ไม่ได้สงสัยนึกว่าแฟนของเธอยุ่งอยู่ บางครั้งเขาก็เห็นเธอหลับระหว่างปรึกษางาน เห็นเธอยิ้มตอนหลับในบางครั้ง บ้างก็เห็นน้ำตาเธอไหลรินบนแก้ม จนเหตุการณ์ผ่านไปเริ่มแสดงให้เห็นชัดเจน เธอเผลอหลับเพราะเหนื่อยอีกครั้ง ชายหนุ่มสถาปนิกจึงอุ้มเธอลงไปนอนบนโซฟา และ เธอเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง ฉันรักคุณที่สุดเลย พร้อมกับซุกศีรษะลงบนอกชายหนุ่ม แต่เขาก็อนุมานว่า เธอคงคิดถึงแฟนที่จากไป ชายหนุ่มทำได้แต่คอยดูแลเธอยามหลับเท่านั้น ทำได้แค่มองเธอยามหลับพริ้ม รอยยิ้มที่ถ้าเธอตื่นขึ้นมาอาจะไม่ได้เห็นอีก ในเช้าวันต่อมาของวันนั้น หญิงสาวตื่นขึ้นมาก็พบว่าหนุ่มสถาปนิกนอนเฝ้าอยู่ข้างๆ โซฟา เธอไม่กล่าวอะไร พร้อมกับมองผ่านหน้าต่างทิวทัศน์ทะเลกว้างข้างนอก

เดือนสุดท้ายของการต่อเติมบ้าน หญิงสาวรู้สึกดีใจที่งานใกล้เสร็จ วันนั้นเธอก็นอนอีกครั้ง พร้อมกับละเมอพูดว่า บ้านของเราเสร็จแล้วนะ หนุ่มสถาปนิกที่เผลอมาได้ยินเข้า เขารู้สึกไม่แน่ใจกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่ เขาเคยคิดว่าแฟนของเธอยุ่งจนไม่มาหาเธอก็คงเป็นไปไม่ได้หรือว่าเขาเสียแล้ว...?  แต่เมื่อนึกเรื่องราวย้อนกลับไป เธอไม่เคยพกรูปถ่าย หรือแม้แต่เยี่ยมแฟนของเธอที่สุสาน  เมื่อบ้านงามที่เธอตั้งใจเฝ้างานเสร็จ เธอโทรหาแพทย์ประจำตัวของเธอพร้อมกับแม่บ้านคนที่จะดูแลเธอระหว่างอยู่กับชายในฝันของเธอ และหลายอาทิตย์ต่อมา หลังจากที่หนุ่มสถาปนิกวุ่นกับโปรเจคใหม่ เขาคิดถึงเธอจึงกลับมาดูบ้าน แม้จะหมดพันธะกันแล้ว แต่สำหรับเขามันยังคงดำเนินมาเรื่อยๆ และระหว่างที่เขาหายไปเขารู้ว่าไม่สามารถปิดกั้นตัวเองจากความรู้สึกที่แท้จริงได้ เขาจึงกลับไปบ้านนั้นอีกครั้ง ก็พบว่าหญิงสาวนอนหลับอยู่ เห็นรอยยิ้ม เห็นน้ำตา หน้าเศร้า หน้าดีใจทุกรูปแบบพึงที่เธอจะแสดงอารมณ์ออกมาได้ เขารอจนเธอลืมตาตื่น แต่มันนานเกินไปที่เธอนอนอย่างนั้นติดต่อมาสองวันแล้ว เขาจึงรู้ความจริงจากแม่บ้าน มันทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก ที่เขาไม่สามารถบอกความรู้สึกจริงๆ ของเขาออกมาให้เธอได้ยินได้อีก เขาขอร้องให้แพทย์ช่วยทำให้เธอฟื้น และหยุดให้ยาเธอ คุณหมอไม่สามารถทำได้เพราะหญิงสาวทำสัญญากันแล้วเรียบร้อยว่าเธอจะหลับตลอดกาล เขาเข้ามาเฝ้าเธอ ทุกๆ วัน สารภาพความในใจให้เธอฟังก่อนเวลานอนของเขาทุกครั้ง บางครั้งเขาก็มาเยี่ยมตอนที่แพทย์ให้ยาเธอ เขาเห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดในสายตา

ผ่านไปหนึ่งเดือนที่เขาไปเยี่ยมเธอ เล่าความในใจทุกๆ แก่เธอ ทำตัวราวกับเธอกำลังฟังเขาอยู่ทุกๆ นาที แพทย์ที่จ่ายยาให้เห็นดังนั้น เขาจึงเริ่มลดยาน้อยลง เขาเองคงจะรู้สึกผิดมากไปกว่านี้แต่เขาก็สงสารหญิงสาวเช่นกัน เวลาที่คุณหมอนึกถึงความตั้งใจของเธอเมื่อยังมีชีวิตจากคำบอกเล่าของเธอเกี่ยวกับความสุขของเธอ อย่างไรก็ตามเขาก็ยอมลดยานั้นแต่ไม่เลิกที่จะให้ ไม่กี่คืนต่อมา ผลจากการให้ยาน้อยลง จากที่เธอหลับสนิท เธอเริ่มละเมอพูดเป็นเรื่องราวมากขึ้น และหยุดไปเป็นพักๆ เธอพูดเหมือนกับพูดคุยกับเขาอยู่ แม้ชายหนุ่มจะรู้ว่าเธอคุยกับชายในฝันของเขา แต่เขาก็อยากที่จะตอบคำถามนั้นเหมือนกัน  เหตุการณ์ผ่านไป ดูเหมือนกจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้หญิงสาวทำได้แค่คุยละเมอโดยที่ไม่รู้ตัวว่าหนุ่มที่อยู่ข้างเตียง คอยคุยเป็นเพื่อนอยู่ด้วย แม้จะหัวเราะก็หัวเราะทั้งน้ำตา แม้จะยิ้มเธอก็ไม่เห็นรอยยิ้มของเขา

คืนแล้วคืนเล่า เขาใช้ชีวิตที่เหมือนเป็นคนดูแลราวกับสามีที่ดูแลภรรยาที่ป่วย แม้ในความเป็นจริงแล้ว เธอได้พูดเอ่ยขึ้นมาว่าเธออยากแต่งงานกับเขาในฝัน เขาก็ดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน มีบ้างที่ชายหนุ่มรู้สึกอิจฉาผู้ชายที่ไม่มีตัวตนคนนั้นจะแต่งงานกับเธอ เขาจึงตอบกลับไป แต่วันนั้นเองเขาก็ซื้อแหวนมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายให้เธอ มือของเขากุมมือของเธอตลอดเวลา และ หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาว่า ฉันรักคุณค่ะ เขาก็ตอบกลับ เช่นเดียวกัน พร้อมกับประทับรีมฝีปากแผ่วเบาที่ปลายรีมฝีปากอมชมพูของหญิงสาวและเขาก็เฝ้านอนเธออยู่ข้างเตียงเหมือนที่เคยทำ และแอบหวังลึกๆ ว่าวิธีนี้อาจจะทำให้เธอฟื้นเหมือนในนิทานปรัมปรา พร้อมทั้งกุมมืออย่างที่เคยทำทุกวัน และวันรุ่งขึ้นเขารู้สึกตัวอีกว่าเขาอยู่บนเตียงมีศีรษะนอนทับบนแขนซ้ายของเขา นั่นคือภรรยาของเขานั่นเอง  เขาไม่เคยได้เห็นเธอใกล้ๆ ในมุมแบบนี้ แม้เธอจะหลับไม่รู้เรื่องยังไงเขาก็ไม่เคยคิดจะแตะต้องเธอใกล้กว่าที่จะทำได้ แต่ข่าวร้ายในวันต่อมาแพทย์ที่ให้ยาเธอวินิจฉัยว่าเธอกำลังจะสิ้นใจ ตอนแรกเขากล่าวหาหมอว่าเขาเป็นคนทำให้เธอเป็นแบบนี้ หมอได้อธิบายอย่างใจเย็น เขาเก็บความลับชิ้นสุดท้ายของหญิงสาวไว้ว่าเธอเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย เธอจึงเลือกวิธีนี้และต้องการจากไปอย่างมีความสุข นั่นจึงเป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกเสียใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ แม่บ้านจึงช่วยมาปลอบสามีของหญิงสาวพร้อมกับร้องไห้เสียใจเช่นกัน  ในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจเขาเลือกที่จะทำหน้าที่สามีครั้งสุดท้าย ทั้งลาออกจากงานและลาทุกคนที่เขารู้จัก เขาทำสัญญากับหมอ โดยฉีดยาชนิดเดียวกับภรรยาของเขา และ ในที่สุด ชายหนุ่มก็นอนข้างๆ หญิงสาวที่หลับพริ้ม เขามองเธอเป็นภาพสุดท้ายก่อนจะจากไปพบเธอในอีกโลกหนึ่ง ที่เรียกว่าความฝัน



ถึงจะเป็นเรื่องแต่งขึ้นซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิต แต่เชื่อมั๊ยว่า
บางทีคนเรามีอะไรย่ำแย่ในชีวิต ขอแค่ได้กลับมานอนหลับฝันดีก็พอ
บางครั้งเราไม่แน่ใจในใครคนหนึ่ง แต่เมื่อรู้ตัวตนของเขา ความรู้สึกของเราอาจจะเปลี่ยนไปด้วยก็ได้

J.M. : วันนี้ตื่นเช้ามาคิดอะไรบางอย่างจนความคิดเกะกะพวกนั้นหายไป จนพบจิ๊กซอชิ้นหนึ่ง และขณะนั้นฝนก็ตกหนักจนซาในที่สุด พร้อมกับฟัง Because You LiveของJesse Mccartney จนกลายเป็นเรื่องสั้นเรื่องนี้ แต่บางครั้งเราก็ตลกตัวเอง คิดอยากแต่งนิยายทุกทีไปไม่รอดทุกครั้ง กลายเป็นว่าเราชอบเขียนแบบนี้มากกว่า และไม่เคยได้แต่งอะไรจบภายในวันเดียว 
เหมือนว่าวันนี้ จิตใต้สำนึกดิบๆ มันอยากถ่ายทอดเป็นคำพูด และมันก็ทำได้จริงๆ เพราะงั้นงานชิ้นๆ หนึ่งไม่ใช่แต่งเพราะเราออกแบบให้มันออกมาแบบที่เราคิดเป๊ะ แต่เป็นความรู้สึกของเรื่องที่จะแต่งด้วย นี่คือสิ่งที่ค้นพบระหว่างเขียนเรื่องนี้ มันอาจจะน้ำเน่าไปบ้าง และบอกได้เลยว่าแต่งจากความรู้สึกล้วนๆ 
มันดูน้ำเน่าไปนิดเนอะ ถ้าให้เอาจริงๆ จะมีใครอยากมีความสุขแบบนี้บ้าง แต่ต้องบอกก่อน ถ้าเรารู้ตัวว่าฝันแล้วมีความสุขก็อย่าลืมว่ามันเป็นเพียงความฝัน ไม่ใช่ชีวิตจริง ถ้าเราสามารถแยกการใช้ชีวิตในความเป็นจริงกับความฝันได้ อาจจะพิลึกดีผิดธรรมชาติไปนิด แต่มันก็เป็นธรรมชาติของการจินตนาการนะ^^

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

ปีใหม่มี 364 วันและวันสิ้นปีมีวันเดียว

วันที่ 31 ธ.ค.เพิ่งผ่านไปแค่1วันกลายเป็น 1 ปี ไปแล้วซะงั้น -__-* เขาถึงว่าปีใหม่มันแปปเดียวจริงๆ แค่เข็มวินาทีชี้เลข12 ในวันที่มนุษย์กำหนดวันเดือนปีว่าเป็นวันสุดท้ายของปี

จริงอยู่ที่มันเป็นปีใหม่ แต่วันสุดท้ายของปีมีแค่วันเดียว เราคิดอย่างนั้นนะ ปีใหม่จริงๆ มีแค่ 364วัน ส่วนอีก1วันคือวันสุดท้ายของปีเก่า เข็มนาฬิกาก็ยังผ่านเลข12 ไปทุกคืน ทำให้ทุกวันเป็นวันใหม่เสมอ ยกเว้น วันสุดท้าย

พอวันที่ 31มาถึง เราเพิ่งจะรู้สึก(จริงๆ) ได้ว่าปีใหม่มันมาจริงว่ะ ปีนี้ฉันทำอะไรบ้างเนี่ยๆ แต่เอาเถอะ 364 วันที่ผ่านไปก็เป็นวันเก่าๆ ได้ เพราะอะไรที่แย่ๆ ก็จะได้ผ่านไป จนบางทีเราอาจไม่ได้มองว่ามันผ่านไปในช่วงนั้น แต่เมื่อมาถึงวันสิ้นปีทีไร เราต่างเพิ่งนึกสิ่งที่ผ่านมา จนมันกลายเป็นวันเก่าๆ ไปแบบไม่รู้ตัว และก็ต้องเลือกที่จะจำบางสิ่งและลืมบางสิ่งไว้ในปีที่แล้ว

งั้นอีก 365 วันนี้ (ปีนี้มี366วัน) ใช้เวลาให้เต็มที่ ทำในสิ่งที่เป็นตัวเอง ทำตามฝันที่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นได้ แม้จะไม่ใช่ใน365วันนี้ แต่จะเป็น 365วันตลอดไปที่เราจะใช้ชีวิตให้มีค่าและมีความหมาย เพื่อวันสุดท้ายของปีเราไม่ได้มองเป็นแค่วันเก่าๆ อย่างเดียว ให้มันเป็นวันพิเศษพอๆ กับวันสิ้นปี อย่าให้มันเป็นวันธรรมดา นี่คงจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการใช้เวลาให้คุ้มค่าทุกวินาที

เราไม่ได้หมายถึงว่ามีค่า จะมีแต่สิ่งดีๆ บางคนกำลังจะเติบโตเข้าย่าง20 เพิ่งเริ่มเผชิญโลกใหญ่เต็มกำลังก็ได้ อย่าลืมว่าความฝันกว่าจะคว้ามาได้ คงไม่ใช้เดินตามพรมแดง หากแต่ต้องเดินบนหินกรวด ด้วย อาจจะเป็นปีที่ใครๆ หลายคนต้องฝ่าฟันอะไรครั้งแรก แต่ฝ่าฟันอีกเยอะ เราไม่รู้หรอกว่า อีก 365วัน เราอาจจะไม่ได้อยู่ครบวันก้ได้ ใครจะไปรู้ (ไม่ได้แช่งนะ- -") ปีที่แล้ว(อาทิตย์ที่แล้ว) มีคนรู้จักเพิ่งเสียไป กำลังจะเตรียมตัวฉลองปีใหม่อยู่เลย เพราะงั้น เวลา ที่อยู่บนโลกมันมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด และมันจะมีค่ามากกว่าเดิมถ้าเราใช้มันอย่างคุ้มค่า ที่สุด

อย่าไปกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าไปกลัวการเปลี่ยนแปลง จงพร้อมรับมันและปรับตัวให้เข้ากับมัน
ปีใหม่สำหรับเราคงจะเกิดอะไรเยอะกว่าเดิม

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรามีความฝันได้ และอยากทำมันคือ กำลังจากคนรอบข้าง อย่ามัวแต่สนเรื่องความฝัน จงเอาใจใส่คนรอบข้างด้วย!


อย่างปีที่แล้ว (เมื่อวาน55+) ตั้งแต่ดูNew year's Eve จำตัวละครIngrid ได้มั๊ย เธอลิสต์รายการที่อยากทำในวันปีใหม่ 10 รายการ ตอนนั้นกำลังห่อเหี่ยวใจ อยากทำอะไรส่งท้ายปีแย่ๆ ของเราซะหน่อย เลยลิสต์มัน10รายการ ก็มี เซอร์ไพรส์แม่ ช้อปปิ้ง(ซึ่งไม่ใช่นิสัยเราเท่าไร) กินข้าว ดูหนัง NYE (อีกละ) ตะลุยกทม. เคาน์ดาวน์หน้าคอมคนเดียว อะไรแบบนี้ว่าไป ดูธรรมดา แต่อยากให้เป็นแบบแผนเหมือนที่ทำทุกปี เป็นอะไรที่เออ ทำให้รู้ว่าเรา มันเป็นวันสิ้นปีจริงๆ นะ เว่ย ไม่ใช่วันเส็งเครง ไม่ใช่ แค่นั่งๆ นอนๆ เรียนๆ อ่านหนังสือ จดศัพท์เครียดกับการบ้าน เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่แอบเสียดาย แถวบ้านร้านพิซซ่าไม่เปิด เลยอดทำไปรายการนึง คือฉลองพิซซ่า เคาน์ดาวน์กับครอบครัว แง่มๆ ไม่เป็นไร มันเป็นวันที่ได้ทำตามคำขอตัวเองครั้งแรก 55+ วันสิ้นปีปีนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ก็โปรดติดตามชมตอนต่อไป


สรุป อย่าใช้ทุกๆ วันเป็นแค่วันธรรมดา และอย่าให้วันพิเศษกลายเป็นวันธรรมดาด้วย! (เอามาจากThaiQuote ) 

สวัสดีปีใหม่ 365วันค่ะ^^

ปล. ปีนี้เลข2555 หรือ 2012 เลขปีทำเราขนลุกนิดหน่อย- -"


Melody of My Life

ผู้ติดตาม