Lifetime Recipe

Lifetime Recipe

ก่อนจะอ่าน...

นี่เป็นบล็อคส่วนตัว สิ่งที่อยากโพสคือสิ่งที่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะตัวเองเป็นคนลืมง่าย แม้แต่ช่วงเวลาความสุข ความประทับใจ ผิดกับความเศร้าเสียใจ ที่จำได้ง่ายเหลือเกิน แต่จะพยายามโพสแต่สิ่งที่น่าจดจำที่สุดก็แล้วกัน ...ยินดีต้อนรับสู่โลกของJulie Mค่ะ^^

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

ท า ง เ ลื อ ก

ไหนๆ เรียนจบแล้วก็ขอพักผ่อนใช้เวลาทบทวนชีวิตตัวเองก่อน เด็กจบใหม่หลายคนและส่วนใหญ่(คิดว่า)ตอนนี้ เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วกำลังหางานกันแน่นอนทันที ชีวิตสู่โลกแห่งความเป็นจริงเริ่มขึ้นแล้ว สิ่งแรกที่เราคิดเรื่องการหางานหลังเรียนจบเป็นเรื่องที่เราค่อนข้างกังวลเหมือนกัน แล้วมาคิดอีกทีว่าทำไมต้องกังวลว่าเราจะไม่ได้งาน หรือไม่ได้เงิน หรือเพราะกลัวถูกข้างบ้านมองว่า จบมายังหางานทำไม่ได้ หรือโดนมองว่า พวกความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด พอมองดีๆ เราไม่ได้แคร์เรื่องพวกนั้น เงินก็มี ชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ใช้สอยอะไรมากเงินเหลือก็เก็บ เรื่องถูกดูถูกก็ไม่ได้เอามาใส่หัว แต่ก็โดนแอบกดดันนิดหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ปัญหาตอนนี้อยู่ที่การเตรียมตัว ถึงเรียนจบและจะสมัครงาน มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เราจำเป็นต้องมองให้ดี ไม่ว่าจะเรื่องความชอบความสนใจว่าเราอยากทำงานอะไร แบบไหน บรรยากาศยังไง เรายอมให้เวลาพิจารณากับเรื่องพวกนี้มาก เหมือนตอนที่แอดมิชชั่นเลือกคณะ 4 ลำดับ อันนั้นก็คิดนานเหมือนกัน ผลลัพธ์เราได้เรียนในสิ่งที่ชอบ

มาคิด มาเตรียมหลังจบเรียนไม่สายไปไหน่อยเหรอ เราถามตัวเองแบบนั้นหลายครั้งแล้วก็ตอบเหมือนเดิมว่า เราคิดแบบนี้มาเป็นปีแล้ว แต่รู้อะไรไหม การทำตามใจตัวเองก็เป็นเรื่องยาก และเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งเหมือนกัน การจะแยกความชอบของเราออกจากความจำเป็นจากความเห็นคนอื่น น่ะ กว่าจะชั่งน้ำหนักว่าเราจะเอาชีวิตตามในแบบของเราหรือให้ผู้ใหญ่กำหนดชีวิตเรา บางครั้งความคาดหวังจากผู้ใหญ่ถือเป็นเรื่องดีตรงที่เราได้รับการสนับสนุน ไม่ใช่โดนบังคับให้ทำงานหรือเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้ถนัดหรือชอบ เพราะงั้นกว่าจะแยกแยะตรงนั้นก็กว่าจะเคลียร์ได้มาถึงชีวิตตอนนี้ คำพูดเดียวที่พ่อบอกและทำให้เราสบายใจสุดคือ ตอนนี้ชีวิตแค่เริ่มต้น เรื่องหางานไม่ได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่จำเป็นต้องคิดจนตัวตาย ถ้าจะเสียเวลาปีนึงเพราะไม่มีที่ทำงาน ก็เอาเวลาตรงนั้นมาพัฒนาตัวเราและเตรียมพร้อมรับมือให้มากขึ้น ชีวิตเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น ชีวิตเรายังอยู่อีกนาน ในอนาคตอาจจะมีอีกหลายหนทางเข้ามาให้เราเลือกอีกก็ได้ เพราะงั้นอย่ามองแค่ว่าเราจะโดนใครมองอะไรยังไง เป็นคำสอนที่ทำให้เรามองหาสิ่งที่เราอยากทำชัดเจนกว่าเดิม

สิ่งที่เราอยากทำคือการเป็นนักแปลภาษา อยากแปลนู่นนั่นนี่ แต่หลักๆ อยากแปลบทความบันเทิง ข่าวไลฟ์สไตล์ วรรณกรรมเด็กหรือนิทานมากกว่าเอกสารบทความ แต่ไม่ได้ไม่ชอบ แค่ถนัดและมีความชอบส่วนตัวกับพวกบทความบันเทิง อะไรทำนองนั้นมากกว่า ทีนี้เราคงไม่เอามาเป็นอาชีพหลัก ทำได้แค่เป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น ส่วนงานหลักนี่จะทำอะไรยังไม่รู้เลยนอกจากงานพวกเลขาฯ แถมไม่ใช่สิ่งที่เราถนัดนี่ล่ะคือปัญหา การจบเอกอังกฤษมา ถ้าไม่มีความรู้เรื่องศาสตร์อื่นๆ ก็เอามาประยุกต์ใช้ได้ไม่มากกว่าคนที่เรียนภาษาอังกฤษประกอบกับวิชาที่เอาไปประยุกต์กับงานได้เช่นการจัดงาน การแปล การท่องเที่ยวโรงแรมและอื่นๆ เราโทแปลแท้ๆ แต่คิดว่าสิ่งที่เรียนยังไม่พอ แถมเอามาเป็นอาชีพหลักยากถ้าไม่มีประสบการณ์ผ่านผลงานมาหลากหลายรูปแบบแล้วล่ะก็ ทำเป็นงานประจำยาก และฟรีแลนซ์ถ้าไม่ขึ้นกับสังกัดไหนก็ดี แต่เราจำเป็นต้องชำนาญการแปลมากกว่านี้จริงๆ ระหว่างนี้ก็ขอใช้เวลาไปการแปลและงานอื่นๆ ทำงานเลี้ยงชีพระหว่างหาความสนใจที่เราชอบจริงๆ เสียก่อนนะ

J.M.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ล่วงหน้านะคะ
Thanks for the comments in advance!

Melody of My Life

ผู้ติดตาม